วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2563

โควิดครั้งใหม่ ตรวจเชิงรุกทุกพื้นที่มีโรงงานและแรงงานอยู่ทั่วประเทศเพื่อหยุดโควิด 19 ให้ได้


 โควิดครั้งใหม่ ตรวจเชิงรุกทุกพื้นที่มีโรงงานและแรงงานอยู่ทั่วประเทศเพื่อหยุดโควิด 19 ให้ได้ 

                      นักวิชาการเผยคนไทยเชื้อมือทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์  ถึงเวลาคนไทยต้องร่วมมือ ร่วมใจ พลังกาย พลังใจ ต้ายภัยไวรัสก่อนวัคซีนจะมาให้คนไทยได้ฉีด

 


      (25ธ.ค.63)นายสมชาย พหุลรัตน์  ประธานสถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์(สคทส.)Thai Sangsan Institute ได้เผยว่าสถาบันฯได้ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ 2 คณะอันนี้ ศ.ดร.มณีรัตน์  สวัสดิวัต ณ อยุธยา  ประธานที่ปรึกษาสถาบันฯและผู้ร่วมก่อตั้งสร้างสรรค์ปารตี้พร้อมด้วยนักวิชาการหลากหลายสาขาอาทิ

     อ.นิดาวรรณ เพราะสุนทร (ผอ.หลักสูตรนิติศาสตร์ ม.รังสิต) ,อ.เภสัชกร ดร.อธิวัฒน์ สินรัชตานันท์ (นักวิชาการด้านสุขภาพ-ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสมุนไพร),ดร.สุรชัย เลี่ยมทอง(นักธุรกิจ-เจ้าของเอจจิ้งเซ็นเตอร์) คุณพัชรีภรณ์  สิงห์พัตร์  (นักธุรกิจด้านอาหาร),อ.ดร.แสวง วิทยพิทักษ์(อาจารย์สอนป.เอกม.ราชภัฎจอมบึง),อ.ดนัย  หริพัฒน์กุล (อาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้แบบมวยไทย)คุณดิษชูภณ นัยเนตร(คณะทำงานการเมืองภาคประชาชน),คุณอิศรานนท์  สิทธาพิสุทธิ์กุล (ที่ปรึกษาบ.ส่งออกผลไม้-คอลัมนิสต์),นายธรรมรัตน์  เทพหัสดิน ณ อยุธยา (อาจารย์พิเศษ-คอลัมนิสต์) ฯลฯ  ร่วมกันประชุมเรื่องแนวทางการรับมือกับโควิดครั้งใหม่ ในส่วนของภาคประชาชน  โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย นักวิชาการ-นักธุรกิจ-คนรุ่นใหม่-และอดีตข้าราชการ ซีงมีความคิดเห็นที่สรุปออกมาได้ประเด็นก็คือ ว่าควรที่จะมีการตรวจเชิงรุกทุกพื้นที่ที่มีโรงงานและแรงงานต่างด้าวอยู่อาศัยทั่วประเทศไปทีเดียวเลยเพราะจะได้หยุดโควิดระบาดให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งในที่ประชุมยังมี  อ.ซาร่า หรือศศิวิมล จิตบันเทิงพันธ์ (อาจารย์ด้านภาษาจีน-และอดีตนักเรียนทุนรัฐบาลจีน)มาพูดให้ฟังถึงสถานการณ์ตอนที่เธออยู่ที่ในปักกิ่ง และตอนนั้นมีการระบาดโควิดในตลาดซินฟาตี้ และรัฐบาลจีนใช้เวลา 7 วันเอาอยู่โควิดได้เบ็ดเสร็จ มาเปรียบเที่ยบกับสถานการณ์ที่ตลาดกุ้ง สมุทรสาคร เกิดเป็นต้นต่อของการระบาดครั้งใหม่มาเป็นข้อมูลด้วย

 





             ขณะเดียวกันในส่วนภาคประชาชนของสถาบันฯก็จะร่วมรณรงค์ในเครือข่ายไปสู่สาธารณะให้ช่วยกันเป็นจิตอาสาเฝ้าระวังดูในชุมชนของตัวเองและแจ้งเบาะแสบุคคลที่สุ่มเสี่ยงติดโควิดให้กับภาครัฐ โดยต่อยอดมาจากโครงการฯ"พลังกาย พลังใจ ต้านภัยไวรัส” ที่ได้ร่วมรณรงค์สู้กับภัยโควิด 19 ในช่วงต้นที่ผมเองเป็นประธานฯจัดกิจกรรมและมีProf.อิน  นฤหล้า (นักวิชาการนานาชาติ),Prof.ปีแอร์เดอลาลองด์ และProf.สก็อตบัดเล่ย์ ร่วมกันจัดกิจกรรมผ่านทางออนไลน์ ต้านภัยโควิดในช่วงแรก

 



                  ทางด้าน ศ.ดร.มณีรัตน์ ฯ และ อ.นิดาวรรณฯ กล่าวว่ารอบใหม่นี้ถ้าฟังข้อมูลจากแพทย์หลากหลายท่านก็จะบอกตรงกันว่าจะรุนแรงยิ่งกว่าครั้งแรกดังนั้นเราต้องช่วยกันทุกภาคส่วน ซึ่งในวันนี้เราก็มีคนรุ่นใหม่ที่เป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเอแบค มาร่วมมือรณรงค์ไปพร้อมกับสถาบันฯก็คือ น.ส.วัณพรรณ เพียรล้ำพงศ์ (วิทยากรข่าว)น.ส.สุพรรษา  หม่าน.ส.ศิวาพร  พุ่มทิน  และยังมีทนายความและอดีตข้าราชการเช่น  พ.ต.ท.สุคนธ์  กุลธาโรคุณนนท์  ทะสะราคุณเสกสรร มากผลคุณประเสริฐ  เอียดสุวรรณ,ผศ.ดร.ชิษณุพงศ์  รัตนพันธ์,คุณเอกราช นิสชัยสงฆ์คุณเสนีย์ รัตนเจริญ (อดีตผบ.เรือนจำ) และกลุ่มชมรมคนด้ามขวานและเพื่อนปทุมธานี มาร่วมแสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย

 



                  นายสมชาย  พหุลรัตน์ หรือ”Mr.P” ประธานสถาบันฯกล่าวอีกว่าอีกภาระกิจหนึ่งของสถาบันฯคือการตั้งคณะกรรมการทำงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การคัดกรองบุคคลมาทำงานโดยที่มีศ.ดร.มณีรัตน์  สวัสติวัติ ณ อยุธยา  เป็นประธานฯและมีคณะกรรมการประกอบด้วยบุคคลหลากหลายสาขาอาชีพมาร่วมกันขับเคลื่อน อาทิ พ.ต.ภรัณ กิติวัฒน์,(อดีตที่ปรึกษารมต.อุตสาหกรรม) คุณยศพงศ์ นาทันรับ(นักธุรกิจ)คุณพัชรียาภรณ์  สิงห์พัตร์ (นักธุรกิจด้านอาหาร).คุณจิรโรจน์ มาลัยทองทิพย์ (นักธุรกิจ),คุณณัฐนันท์ พงษ์ภูริพัฒน์(อดีตผอ.กระทรวงทรัพยากรฯ),คุณธนกร  ธรรมวรัญจน์,คุณเกียรติพงษ์  พิณทอง (ธุรกิจสุขภาพ)คุณชาติชาย สอนอินทรชิต,    คุณสุรณรงค์ แจ่มจันทร์ และคุณปรีชา  ธนาไพรินทร์ฯลฯ และยังมีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านอื่น ๆที่จะมาร่วมกันทำงานเพื่อประเทศชาติ นอกจากโครงการอบรมคนรุ่นใหม่ทางการเมืองแล้วยังมีการจัดเวทีทางวิชาการในช่วงปีหน้าปี 64 ซึ่งจะขยายเครือข่ายออกไปยังท้องถิ่นซึ่งมีทีมงานด้านนี้มารับผิดชอบทุกภาคในการขับเคลื่อน โดยมีเป้าหมายรวมพลังกันมาร่วมกันทำงานความดีเพื่อแผ่นดิน.

รายงานข่าวโดย เปี๊ยก อิสระ



วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2563

Motor Expo 2020 (มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37) ระหว่างวันที่ 2 - 13 ธันวาคม 2563 ณ Chalennger Hall IMPACT เมืองทองธานี


 

Motor Expo 2020 (มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37)
ระหว่างวันที่ 2 - 13 ธันวาคม
2563
Chalennger Hall IMPACT เมืองทองธานี












 









          งานแสดงยานยนต์ที่ยิ่งใหญ่ แห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่คุณห้ามพลาด  "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37"

 หรือ The 37th Thailand International Motor Expo 2020
ภายใต้แนวคิด"พร้อมขับเคลื่อน ไปในความเปลี่ยนแปลง - Whatever Changes will be…Move on"
 
          ระหว่าง 2 - 13 ธันวาคม 2563 IMPACT Challenger 1-3 เมืองทองธานี
แนวคิด MOTOR EXPO 2020  พร้อมขับเคลื่อน ไปในความเปลี่ยนแปลง
Whatever Changes will be...Move on
ความเปลี่ยนแปลงเป็นนิรันดร์ คำกล่าวของ อาร์ธัวร์ โชเพนเฮาเอร์ (ARTHUR SCHOPENHAUER) นักปราชญ์ชาวเยอรมัน ได้รับการพิสูจน์อีกครั้งในโลกของยานยนต์

 











            พลังงานทดแทนน้ำมันที่มีบทบาทสูงสุดในปัจจุบัน ได้แก่ ไฟฟ้า โดยเริ่มจากการนำมาผนวกกับเครื่องยนต์แบบเดิม กลายเป็นระบบไฮบริด และพลัก-อิน ไฮบริด กระทั่งสามารถผลิตยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าล้วน ที่ประหยัด และไร้มลพิษได้สำเร็จ แม้จะยังอยู่ระหว่างการพัฒนา แต่ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าก็กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในหลายประเทศทั่วโลก
 นอกจากพลังไฟฟ้าแล้ว ผู้ผลิตยังพยายามแสวงหาพลังงานประเภทอื่นมาใช้แทนน้ำมัน ทั้งไฮโดรเจน เซลล์เชื้อเพลิง พลังแสงอาทิตย์ ฯลฯ ซึ่งยานยนต์ที่โลดแล่นด้วยพลังงานเหล่านี้เริ่มมีการผลิตออกจำหน่ายเชิงพาณิชย์แล้ว และคาดว่าจะเป็นทางเลือกที่สมน้ำสมเนื้อกับยานยนต์พลังไฟฟ้าในอนาคต
                อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ เครื่องยนต์ระบบสันดาปภายในยังคงเป็นขุมพลังหลักของยานยนต์ส่วนใหญ่ โดยผู้ผลิตสามารถลดมลพิษที่เกิดจากการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง อันเป็นจุดอ่อนของระบบได้อย่างน่าพอใจ

              หลังจากผ่านการพัฒนาอย่างต่อเนื่องนานกว่าหนึ่งศตวรรษ ยานยนต์กำลังก้าวสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีขับเคลื่อนครั้งใหญ่ ที่ไม่ต้องอาศัยน้ำมันเชื้อเพลิง และเครื่องยนต์ระบบสันดาปภายในอีกต่อไป

          ในมุมมองของผู้บริโภค ถึงเทคโนโลยีจะเปลี่ยนไป แต่วัตถุประสงค์ของการขับเคลื่อนมิได้เปลี่ยนแปลง นั่นคือการเดินทางจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
            ที่สำคัญ ไม่ว่ายานยนต์อนาคตจะขับเคลื่อนด้วยพลังงานจากน้ำมัน ไฟฟ้า ไฮโดรเจน เซลล์เชื้อเพลิง หรือแสงอาทิตย์ และไม่ว่ามนุษย์จะเป็นผู้บังคับควบคุม หรือยานยนต์จะขับเคลื่อนได้เอง เสน่ห์ของยานยนต์ ทั้งความสะดวกสบาย ความปลอดภัย ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึง ความสวยงามของรูปลักษณ์ และความน่าทึ่งของเทคโนโลยี ก็ยังชวนหลงใหล ทำให้เราไม่มีวันเบื่อหน่ายที่จะขับเคลื่อนไปพร้อมกับมัน
 

















        

         INSIDEDARA MAGAZINE จึงขอเป็นกำลังใจให้บรรดาผู้ผลิต สร้างสรรค์ยานยนต์ที่ใช้พลังงานประเภทต่างๆ อย่างไร้ข้อจำกัด และนำมาแสดงในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37”
 ที่จัดขึ้น ภายใต้แนวคิด พร้อมขับเคลื่อน ไปในความเปลี่ยนแปลง
         ถึงแม้บรรยากาศในงาน จะไม่หนาแน่น เหมือนปีที่ผ่านๆมา เนื่องจากเป็นยุคโควิด-19 ผู้จัดงาน จึงต้องขอความร่วมมือให้ประชาชน ผู้มาร่วมงาน ปฎิบัตตามมาตรการความปลอดภัย
 รักษาการเว้นระยะห่างทางสังคม ตรวจวัดอุณภูมิ สรวมหน้ากาอนามัยขณะเข้าชมงาน รวมทั้งล้างมือด้วยแอลกอฮอร์ แลุะแสกนคิวอาร์โค๊ด "ไทยชนะ" เช็คอิน - เช็คเอาค์ อย่างเคร่งครัด บู๊ทจัดงาน ก็ยังมีประชาชนสนใจเข้ามาชมนวัตกรรม เทคโนโลยี่ ยนตรกรรมล้ำยุค ในปัจจุบัน อย่างคึกคักพอสมควร

ถ่ายภาพ และรายงานข่าวโดย บก.เปี๊ยก อิสระ